วันอังคารที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หน่วยที่ 1 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

จุดกำเนิดของเทคโนโลยีสารสนเทศ


มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มีการตั้งถิ่นฐานอยู่กันเป็นหมู่เหล่าตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว หน่วยเล็กที่สุดของสังคมคือครอบครัว ถัดขึ้นมาเป็นหมู่บ้าน  ตำบล ฯลฯ  จนในที่สุดเป็นเมือง เป็นประเทศอาหาร มนุษย์แต่ละหมู่เหล่ามีการติดต่อพบปะกัน เพื่อแลกเปลี่ยนอาหาร  สิ่งของเครื่องใช้  ยารักษาโรค ฯลฯ  ที่ชุมชนของตนไม่สามารถผลิตได้หรือผลิตได้ไม่เพียงพอจนเกิดเป็นค้าขายระหว่างหมู่บ้าน ระหว่างตำบล เมือง และประเทศขึ้น ทำให้เกิดการส่งและรับข้อมูลข่าวสารถึงกันแรกๆก็เป็นการบอกกันปากต่อปาก ต่อมาก็มีการสื่อกันด้วยตัวอักษรที่จารึกบนวัสดุต่างๆ  ซึ่งต่อมากลายเป็นการส่งจดหมายถึงกัน  ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีคมนาคม  ซึ่งอาศัยหลักวิชาทางวิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์  เปลี่ยนคำพูดหรือข้อความหรือภาพเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปตามสาย  กระจายไปในอากาศเมื่อถึงหมู่บ้าน  ระหว่างตำบล  เมือง  และประเทศขึ้น    พัฒนาการของเทคโนโลยีคมนาคมนี้  ทำให้คนที่อยู่คนละซีกโลกกันสามารถรับรู้ข้อมูลข่าวสารของกับและกันได้ภายในชั่วพริบตา  เพราะอัตราความเร็วของการเดินทางของสัญญาณไฟฟ้าตามสายหรือของคลื่นวิทยุนั้นอยู่ในระดับเดียวกับความเร็วของแสง
ประวัติย่อของเเทคโนโลยีสารสนเทศ
เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอที (IT ย่อจาก information technology) หมายถึงเทคโนโลยีสำหรับการประมวลผลสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงการรับ-ส่ง การแปลง การจัดเก็บ การประมวลผล และการค้นคืนสารสนเทศ ในการประยุกต์ การบริการ และพื้นฐานทางเทคโนโลยี สามารถแบ่งกลุ่มย่อยเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ คอมพิวเตอร์, การสื่อสาร และข้อมูลแบบมัลติมีเดีย องค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนนี้ ยังต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน
บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิต เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน ผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ เทคโนโลยีทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก ติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้
เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทำให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษาเพิ่มขึ้น เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียงทางสายโทรศัพท์การส่งภาพโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทำให้มีการใช้สารสนเทศในรูปแบบข่าวสาร ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ แ ละสื่อต่าง ๆ ในการกระจายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด
นิยามเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
คำว่าเทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสารกึ่งตัวนำ นำมาผลิตเป็นทรานซิสเตอร์ และไอซี (Integrated Circuit : IC) ไอซีนี้เป็นอุปกรณ์ที่รวม วงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากไว้ด้วยกัน ใช้เป็นชิพซึ่งเป็นส่วนสำคัญของคอมพิวเตอร์ สารซิลิกอน
ส่วนคำว่าสารสนเทศ หมายถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ทุกวันนี้มีข้อมูลรอบตัวเรามาก ข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างบุคคล จึงมีผู้กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคของสารสนเทศ
เมื่อรวมคำว่าเทคโนโลยีกับสารสนเทศเข้าด้วยกัน จึงหมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ เทคโนโลยีสารสนเทศจะรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดระบบการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูล
เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความหมายที่กว้างขวาง  การใช้สารสนเทศมีอยู่มาก ดังนี้
§  การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบ
§  การประมวลผล ข้อมูลที่เก็บมาได้มักจะเก็บในสื่อต่าง ๆ เช่น แผ่นบันทึก หรือเทป  ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลผลตามต้องการ เช่น แยกแยะข้อมูลเป็นกลุ่ม การแสดงผลลัพธ์ อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลลัพธ์มีมาก สามารถแสดงเป็นตัวหนังสือ เป็นรูปภาพ เป็นต้น
§  การทำสำเนา เมื่อมีข้อมูลที่จัดเก็บในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ การทำสำเนาจะทำได้ง่าย
§  การสื่อสารโทรคมนาคม เป็นวิธีการที่จะส่งจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง หรือกระจายออกไปยังปลายทางครั้งละมาก ๆ
ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ลักษณะเด่นที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศมีดังนี้
§  เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
§  เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ
§  เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ
ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศโดยรวมมี   ดังนี้
§  การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
§  เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส
§  สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน
§  เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม
§  เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ
§  การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม

ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยีสารสนเทศ

            เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีแห่งยุคที่มีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ไม่ว่าจะอยู่ ที่ไหน ไม่สามารถหนีได้ เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทครอบคลุมชีวิตมนุษย์ โดยข้อมูลในระบบ ทะเบียนราษฎร์ เป็นสิ่งที่จำเป็นในการพิสูจน์ตัวตน และในการรับบริการสาธารณะต่างๆ เทคโนโลยีสารสนเทศยังเป็นเทคโนโลยีที่สนับสนุนทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมต่อการผลิตและการดำรงชีวิตต่างๆ ที่สำคัญที่สุด ความรู้และทักษะทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำมาหากินของผู้คนทุกอาชีพ ก็ล้วนแต่ต้องใช้ความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บุคคลที่ไม่มีความรู้ และทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะตกเป็นผู้ด้อยโอกาสและผู้เสียเปรียบจนดำรงชีวิตเป็นปกติสุขไม่ได้ ในขณะที่เทคโนโลยีสารสนเทศมีคุณประโยชน์มากมาย เทคโนโลยีสารสนเทศก็มีโทษมากมายเช่นเดียวกัน
กล่าวคือ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสื่อที่มีความทะลุทะลวงสูง สามารถแทรกซึมเข้าไปได้ถึงทุกครัวเรือน ทำให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสได้รับสื่อที่ไม่เหมาะกับวัย หรือเป็นสิ่งมอมเมาได้ง่าย นอกจากนี้เทคโนโลยีสารสนเทศยังเป็นช่างทางของการก่ออาชญากรรมข้ามชาติได้ด้วย
ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจึงต้องใช้อย่างมีจิตสำนึกและรู้เท่าทัน การใช้อย่างมีจิตสำนึกหมายถึงการใช้ที่มุ่งให้ประโยชน์ทั้งแก่ผู้ใช้เองและแก่ส่วนรวม หลีกเลี่ยงการใช้ที่เป็นโทษหรือเป็นภัยแก่ตนเองเละผู้อื่น ส่วนการรู้เท่าทันหมายถึงต้องเรียนรู้ปัญหาและต้นเหตุของปัญหาในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และหาทางแก้ไขหรือบรรเทาปัญหานั้น